การอ่านเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจใน Everyday!
การอ่านเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจ ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึง เช็ค (cheques) ใบเสร็จ ceipts) และตั๋ว (tickets) มีรายละเอียดดังนี้ Cheques (checks ตามวิธีสะกดแบบอเมริกัน)
ปัจจุบันการเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารถือเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันอยู่ทั่วไป บัญชีเงิน กอาจแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. บัญชีเดินสะพัด (current account หรือ checking account)
เจ้าของ ญชีจะถือสมุดเช็คและเซ็นเช็คสั่งจ่ายในโอกาสต่าง ๆ บัญชีประเภทนี้จะไม่มีดอกเบี้ย
2. บัญชีออมทรัพย์ (deposit account)
เจ้าของบัญชีจะถือสมุดคู่ฝาก ต้องไป กหรือถอนเงินจากธนาคารโดยตรง โดยได้รับดอกเบี้ยตามสมควรจากเงินที่ฝากไว้
3. บัญชีฝากประจํา (savings account)
เป็นการฝากเงินระยะยาว เจ้าของบัญชี สมุดคู่ฝากและจะไม่ถอนเงินก่อนกําหนดที่ตกลงกัน บัญชีประเภทนี้จะได้รับดอกเบี้ย งกว่าบัญชีออมทรัพย์
ในการฝากเงินทั้ง 3 ประเภท ผู้ฝากจะต้องศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องให้เข้าใจและ ปฏิบัติตามให้ถูกต้อง มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ ในที่นี้จะยกตัวอย่างเอกสารประเภท เช็ค ซึ่งเป็นเอกสารสําคัญ ผู้ใช้ต้องเข้าใจวิธีใช้ โดยเฉพาะเมื่อเป็นภาษาต่างประเทศ ต้องศึกษาจะได้เห็นตัวอย่างเช็คซึ่งออกโดยธนาคารในประเทศอังกฤษ ประกอบด้วยส่วน องค์ ที่ควรทราบดังนี้
1.The name and address of the bank
คือ ชื่อธนาคารและสถานที่ตั้ง หากเป็นสาขาก็จะใช้สถานที่ตั้งของสาขา (branch) จะอยู่ส่วนบนของเช็ค
2. The date
ที่ว่างสําหรับให้เขียน วัน เดือน ปี จะอยู่ด้านขวาบนของตัวเช็ค ากเป็นเช็คที่ไม่ได้ใช้กับคนไทย หรือเป็นของธนาคารต่างประเทศ จะใช้ปี ค.ศ. ตาม แบบสากล .
3. Payee
ชื่อของผู้ที่รับเช็คและจะนําเช็คไปขึ้นเงิน หากต้องการสั่งจ่ายเป็น ในสด โดยไม่ลงชื่อผู้รับเงิน จะเขียน cash ในใบเช็คมักเขียนว่า Pay to และเว้นช่อง ให้เติมชื่อ
4. Bearer
คือ ชื่อเจ้าของเช็ค
5. Code numbers
เป็นรหัสเลขบัญชีและรหัสของสาขาธนาคารนั้น ๆ
6. The amount of money
จํานวนเงินที่สั่งจ่ายเป็นตัวเลข และเป็นตัวอักษร เขียนในที่ว่างส่วนกลางของแผ่นเช็ค
7. Signature
ที่ว่างสําหรับเติมลายเซ็นของเจ้าของเช็ค
8. Crossed
สั่งจ่ายเข้าบัญชีผู้รับเท่านั้น
2.Receipts
ใบเสร็จ คือ เอกสารที่ออกให้เป็นหลักฐานว่าได้รับเงินจํานวนหนึ่งแล้ว เป็นค่า ของบางสิ่งบางอย่าง
1. The name of the person or organization receiving the money.
ชื่อผู้ขาย / ร้านค้า
2.The name of person paying.
ชื่อลูกค้า
3. The date.
วันที่
4. The reason of the payment.
เหตุผลที่จ่ายเงิน (สินค้า/บริการ)
5. The amount or the sum
ราคา
6.A stamp or signature
ลายเซ็น / ขอบคุณ
3.Tickets
ตัวทําหน้าที่คล้ายใบเสร็จไม่ว่าจะเป็นตัวที่ใช้กับโรงหนัง โรงละคร หรือตัวยานพาหนะต่าง ๆ เพราะตัวคือหลักฐานแสดงว่าได้จ่ายเงินไปแล้วเพื่อจุดประสงค์นั้น ๆ อย่างเจ้าเว็บเพจเป็นคนที่ชื่นชอบการไปconcert มาก และยิ่งศิลปินมีทัวร์รอบโลก ก็จะพยายามไปดูให้ครบทุกที่ค่ะ วันนี้เลยมาขอยกตัวอย่าง เป็นตั๋วคอนเสิรต์ กับตั๋วเครื่องบินนะคะ !
ตั๋วคอนเสิร์ต
1.sponsor - ผู้สนับสนุนการจัดคอนเสิร์ต
2.Conditions - เงื่อนไขในการรับชมคอนเสิร์ต
3.Show date - วันแสดง
4.Show time - เวลาแสดง (รอบที่แสดง)
5.Tax Invoice Date - วันออกใบกำกับภาษี
6.Tax Invoice No - เลขภาษี
7. Level - ชั้น(ชั้นในฮอล์)
Zone - โซน
Row - แถว
Seat number - เลขที่นั่ง
8.Number - ลำดับตั๋ว
9.Price - ราคาตั๋ว
ตั๋วเครื่องบิน
1. Validity เป็นส่วนที่แสดงว่าตัวใบนั้นมีผลใช้ได้ถึงเมื่อใด บางครั้งใช้ข้อความ
Not valid before ... ไม่มีผลใช้ก่อนวันที่ ...
Not valid after ... ไม่มีผลใช้หลังวันที่ ...
2. Route หมายถึงเส้นทาง ปกติจะใช้ข้อความ From ... ต่อด้วยชื่อเมืองที่เป็นต้นทางและปลายทาง To...
3.Amount of baggage คือจํานวนสัมภาระที่จะนําขึ้นเครื่องบิน ปกติจะ ตัวอักษรย่อ
Wt. = Weight (น้ําหนัก)
Pcs. = Pieces (จํานวนชิ้น)
4.Excess baggage หมายถึงสัมภาระที่มีน้ําหนักเกิน หากผู้โดยสารนําสัมภาระ เกินอัตราที่กําหนด เจ้าหน้าที่จะบันทึกลงไว้ในช่องแจ้งน้ําหนักเกิน และอาจต้องเสียค่าส่งพิเศษ
5.Flight number หรืออาจเขียนตัวย่อว่า Flight No. หมายถึงสายการบิน เที่ยวที่...
6.Carrier หมายถึงสายการบินต่าง ๆ จะใช้ชื่อย่อ เช่น เครื่องบินของสาย การบินไทย จะใช้ชื่อย่อว่า TG หากเห็นข้อความ TG 681 ก็หมายความว่าเป็นเครื่องบิน องสายการบินไทยเที่ยวที่ 681 เลขรหัสนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าสายการบินเที่ยว ใน ๆ เดินทางเส้นทางใด
7.Fare Basis/Class หมายถึงอัตราค่าโดยสารและชั้น ค่าโดยสารจะมี 3 อัตรา บ่งตามชั้น คือ First Class, Business Class และ Economy Class ผู้เดินทาง เวนใหญ่จะเดินทางชั้น Economy Class ซึ่งมีค่าโดยสารถูกที่สุด ใช้ตัวย่อในตัวว่า Y :
8.Fare คือค่าโดยสาร เจ้าหน้าที่จะเป็นผู้กรอกตัวเลขลงตามราคาตัว
9.Date/Time ในช่องถัดจากช่องที่แจ้งสายการบินและเที่ยวบินจะมีช่องที่ แจ้งวันและเวลาเดินทาง ซึ่งผู้โดยสารจะต้องกะเวลาไว้ 1 - 2 ชั่วโมงล่วงหน้า
10.Gate ประตูที่...
11.Name of passenger ชื่อเจ้าของตั๋ว
เป็นไงกันบ้าง ทีนี้เวลาดูตั๋ว หรือเอกสารต่างๆก็ไม่กังวลแล้วใช่มั้ยล่ะ เพราะรู้ศัพท์แล้วนี่! ใครมีอะไรก็มาแชร์กันได้นะ!
แหล่งอ้างอิง
เอกสารประกอบการบรรยายในรายวิชา EEC1305 การอ่านเพื่อการวิเคราะห์สำหรับครูภาษาอังกฤษ หนังสือการอ่านป้ายประกาศและเอกสารธุรกิจ เรื่องการอ่านเอกสารราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา