top of page

How to กรอกแบบนี้ได้งานชัวร์ !

     ใบสมัครงานที่ผู้สมัครต้องกรอกตอนที่ไปสมัครงานตามบริษัท ห้างร้านต่าง ๆ นั้น จะมีลักษณะ ต่างๆกันในแต่ละแห่ง แต่โดยส่วนรวมแล้วมักจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันแทบทุกแห่ง โดยมีรายละเอียดการกรอกดังนี้

 

 

วิธีการกรอกใบสมัครงานภาษาอังกฤษ

1. หลักการเบื้องต้น (How to complete an application form)

          1.1 ทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ของใบสมัคร (Read clear what the procedures are) เช่น ให้เขียนหรือพิมพ หรือข้อความตอนใดที่ต้องเขียนด้วยอักษรตัวพิมพ์

         1.2 ตอบคำถามในใบสมัครให้ครบถ้วน (Complete all questions) ข้อความใดที่ไม่ต้องการก็ให้ทำเครื่องหมายหรือใส่ข้อความลงไป

          1.3 กรอกใบสมัครให้ดูน่าสนใจที่สุด (Make it clean, clear,accurate interesting, and wellpresented) หมายถึงเขียนให้สะอาดเรียบร้อยและเลือกเฉพาะประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุด

         1.4 เตรียมคำถามที่อาจถูกถามจากการกรอก (Prepare to be questioned about what you filled in) เป็นการเตรียมคำอธิบายว่าสิ่งที่เรากรอกลงไปนั้น ถ้าต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมจะอธิบายเพิ่มเติมได้อย่างไร

 

         1.5 กรอกใบสมัครให้เสร็จโดยเร็วและรีบส่งทันที (Complete and submit an application assoon as possible).

 

2.การกรอกประวัติส่วนตัว (Personal Details)
          2.1 การเขียนชื่อ เขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งชื่อ (Name) และนามสกุล (Last Name / Surname) โดยใส่คำนำหน้าชื่อด้วย เช่น Mr. , Mrs. , Miss. , Ms. , บางแห่งจะให้เขียนทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ

ตัวอย่าง

ชื่อ: นายสมบัติ RAKDI (อังกฤษ)

NAME : นายสมบัติ รักดี (THAI)

 

          2.2 การเขียนที่อยู่ (Address) ควรเขียนให้ละเอียด การเขียนชื่อทางภูมิศาสตร์(Geographical name) นั้นสามารถเขียนทับศัพท์ได้เลย เช่น Soi (ซอย)13- Thanon (ถนน-แต่คำว่าถนนสามารถใช้คำว่า Road แทนได้เพราะเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป) Amphoe / khet (อำเภอ / เขต) Changwat (จังหวัด จะเขียนนํหน้าชื่อหรือ ไม่ก็ได้ เพราะชื่อจงัหวัดต่าง ๆ เป็นที่รู้จักกันดีแล้ว) และอย่าลืมใส่รหัสไปรษณีย์ตัวอย่าง
Present Address 622/151 Soi Suan Luang, Charansanitwong Rd., Khet Bangkoknoi, Bangkok 10700

               การเขียนที่อยู่ในบางครั้งจะมีช่องสำหรับกรอก 2 ช่องคือ

  1. Home Address / Present Residence(ที่อยู่บ้าน) หรืออาจใช้ Permanent Address ที่อยู่ถาวร คือที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน

  2. Mailing Address หมายถึงที่อยู่ที่ต้องการให้ติดต่อทางไปรษณีย์

 

**กรณีที่สถานที่อยู่เป็นสถานที่เดียวกันทั้งสองช่อง ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องเขียนข้อความซ้ำกันควรเขียนว่า As above หรือ Same as above หมายถึงที่อยู่เหมือนกับสถานที่อยู่ข้างต้น

          2.3 สถานภาพทางการสมรส (Marital Status) และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ(Personal Data)

ผู้สมัครต้องกาเครื่องหมาย / ลงหน้าช่องที่เว้นไว้

 

ตัวอย่าง

Single (โสด)

Married (แต่งงานแล้ว)

Widowed (เป็นหม้าย)

Married with no children (แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร)

Divorced (หย่า) Separated (แยกทางกัน)

 

*ในกรณีที่แต่งงานแล้ว จะต้องกรอก

Marriage Cert. No .. (หมายเลขใบทะเบียนสมรส)

Issued at . (ออกให้ที่อำเภอ หรือเขต)

Dated Issued (วัน เดือน ปีที่ออกใบทะเบียนสมรส )

Spouse (ชื่อคู่สมรส)

  • Birthdate (วัน เดือน ปีเกิด) เช่น May 1, 1970

  • Birthplace / Nataive Place (สถานที่เกิด) ให้เขียนชื่อจังหวัดที่เกิด เช่น Pattani

  • ID Card No. (เลขประจำตัวบัตรประชาชน) เช่น 2 9099 00050 11 6

  • Issued at (สถานที่ออกบัตร) เช่น Amphoe Panare, Pattani

  • Date Issued / Dated (วันที่ออกบัตร) เช่น October 12, 1990

  • Expiry date / Valid Until (วันที่บัตรหมดอายุ) เช่น October 11, 1996

  • Religion (ศาสนา) เช่น Buddhism / Islam / Catholic / Protestant

  • Taxpayers No. (หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี)

  • Social Security No. (เลขประจำตัวบัตรประกันสังคม)

 

          2.4 สถานภาพทางการทหาร (Military Status) มี 3 สถานภาพคือ

  • Serving หมายถึง การอยู่ในระหว่างรับราชการทหาร เช่น กำลังอยู่ในภาวะเป็นทหารเกณฑ์

  • Completed หมายถึง ผ่านการเกณฑ์ทหารมาแล้วโดยการเป็นทหารเกณฑ์

  • Exempted หมายถึง ได้รับการยกเว้นโดยการเรียน ร.ด.จบหลักสูตร หรือจับฉลากได้ใบดำ หรือร่างกายไม่ได้ขนาด หรือกำลังเป็นนักศึกษา

ในบางครั้งเราต้องบอกเหตุผลของการได้รับการยกเว้นว่าเป็นเพราะอะไร (With reason) สามารถบอกได้หลายวิธี เช่น

  • Finished Reserved Officers Training Corps Course (R.O.T.C.) (สำเร็จหลักสูตรรักษาดินแดน) หรือจะใช้ว่า

  • Finished Military Service Training of Territorial Defence Course (สำเร็จหลักสูตรรักษาดินแดน

  • Reserved Status หรือ Reservist (ทหารกองหนุน)

  • Registered Status หรือ Registrant (ทหารกองเกิน)

  • Exempted through Military Drawing Ballot (ผ่านการเกณฑ์ทหาร เพราะจับฉลากได้ใบดำ)

  • Exempted by Being Undersize (เพราะร่างกายไม่ได้ขนาด)

 


  • by physical disability (เพราะจุดบกพร่องของร่างกาย)

  • by being a student (เพราะเป็นนักศึกษา)

          2.5 สุขภาพ (Health Conditions) ส่วนใหญ่จะถามถึงสุขภาพและโรคประจำตัวหรือการได้รับอุบัติเหตุว่าเป็นอย่างไร คำศัพท์ที่ถามเกี่ยวกับโรคภัย ได้แก่

  • Physical disabilities or defects – ข้อบกพร่องทางร่างกาย

  • Handicap – ความพิการ

  • Chronic disease – โรคติดต่อ

  • Serious mental illness – การเจ็บป่วยทางจิต

  • Serious physical illness – การเจ็บป่วยทางกาย

  • Colour blindness – โรคตาบอดสี

ช่องเกี่ยวกับสุขภาพเรามักจะตอบว่า ไม่เคยเป็นโรค หรืออาการเจ็บป่วยเพราะฉะนั้นเราจึงไม่ตอบโดยวิธีเขียนว่า N/A (Not Applicable) หมายถึง ไม่กรอกข้อความหรือไม่มีข้อมูล

ตัวอย่าง

ความพิการทางร่างกายหรือแต้มต่อหรือโรคเรื้อรัง (เช่นมองเห็นการได้ยินการพูดการตาบอดสีอ่อนแอหัวใจ)

 

          2.6 รายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัว (Family Details) ในใบสมัครจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ ชื่อบิดา-มารดา พี่-น้อง และจุดที่สำคัญคือ อาชีพของแต่ละคน คำศัพท์ที่ใช้กรอกในช่องอาชีพ(Occupation) มีดังนี้

  • Civil Servant (Government Official) ข้าราชการพลเรือน

  • Retired Government Official ข้าราชการบำนาญ

  • Officer รับราชการ (ทหาร ยศร้อยตรีขึ้นไป)

  • Sub Lieutenant ร้อยตรี (Sub. Lt.)

  • Lieutenant ร้อยโท (Lt.)

  • Army Captain ร้อยเอก (Army Capt.)

  • Soldier รับราชการ (ทหาร ยศต่ำกว่าร้อยตรี)

  • Sergeant Major First Class จ่านายสิบเอก (จ.ส.อ.)

  • Sergeant Major Second Class จ่าสิบโท (จ.ส.ท. )

  • Sergeant Major Third Class จ่านายสิบตรี (จ.ส.ต.)

  • Sergeant สิบเอก (ส.อ.)

  • Self-Employed หรือ Own Business ทำงานส่วนตัว

  • State Enterprise Employee พนักงานรัฐวิสาหกิจ

  • Employee ลูกจ้าง

  • Trader ค้าขาย

ในกรณีที่ทำงานในอาชีพที่มีเกียรติ หรืออาชีพที่ใช้ความรู้ทางวิชาการ หรืออาชีพที่รู้จักกันกว้างขวางในสังคม หรือ ได้รับการยอมรบั จากสังคม(Profession) เราอาจจะใส่ชื่ออาชีพนั้น ๆ ไปก็ได เช่น นายแพทย์ (Doctor) ทนายความ (Lawyer) ครู-อาจารย์ (Instructor) วิศวกร (Engineer) เป็นต้น

 

3.การกรอกประวัติการศึกษา (Educational Background)

          3.1 ระดับประถมศึกษา (Educational Level)

  • Primary (ระดับประถมศึกษา)

  • Secondary (ระดับมัธยมศึกษา)

  • Vocational / Technical (ระดับอาชีวะ หรือวิชาชีพ)

  • College (ระดับวิทยาลัย)

  • University (ระดับมหาวิทยาลัย)


          3.2 วุฒิการศึกษา (Degree / Certificate)

  • Certificate, Diploma ประกาศนียบัตร

  • High School Certificate ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย

  • Certificate of Technical Vocation ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.)

  • Certificate of Vocational Education (Cert. Of Voc.Ed.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) หรือ

  • Vocational Certificate (Voc. Cert.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

  • Diploma / High vocational Certificate (Dip. / High Voc. Cert.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)

  • Bachelor of Science (B. Sc.) ปริญญาตรีทางด้านวิทยาศาสตร์

  • Bachelor of Engineering (B.Eng.) ปริญญาตรีทางด้านวิศวกรรมศาสตร์

  • Bachelor of Industrial Technology (B.Ind.Tech.)ปริญญาตรีด้านอุตสาหกรรมศาสตร์

  • Bachelor of Accountancy (B.Acct.) ปริญญาตรีด้านบัญชี

  • Bachelor of Business Administration (B.BA.) ปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ

 

หลังคุณวุฒิการศึกษาควรที่จะใส่สาขาวิชาที่สำเร็จการศึกษาโดยเติมคำว่า in หรืออยู่ในวงเล็บ และ ตามด้วยสาขาวิชา เช่น

  • Auto Mechanics ช่างยนต์

  • Machine Shop Mechanics ช่างกลโรงงาน

  • Mechanical Technology ช่างยนต์

  • Electrical Engineering วิศวกรรมไฟฟ้า

  • Building Construction ช่างก่อสร้าง

  • Mechanical Engineering วิศวกรรมเครื่องกล

  • Civil Construction ช่างก่อสร้าง / ช่างโยธา

  • Electronics Engineering วิศวกรรมอิเล็อนิกส์

  • Electrical Power Technology ช่างไฟฟ้ากำลัง

  • Civil Engineerin วิศวกรรมโยธา

  • Architectural Drawing ช่างเขียนแบบสถาปัตยกรรม

  • Surveying ช่างสำรวจ

  • Electronics Technology ช่างอิเล็กทรอนิกส์

  • Accounting การบัญชี

  • Marketing การตลาด

  • Finance and Banking การเงินและการธนาคาร

  • Human Resource Management การจัดการทรัพยากรมนุษย์

  • Business English ภาษาอังกฤษธุรกิจ

  • Computer Science วิทยาการคอมพิวเตอร์

  • Industrial Engineering วิศวกรรมอุตสาหการ

** หมายเหตุ ถ้าช่องสำหรับกรอกการศึกษาเว้นประเภทของโรงเรียนไว้ให้ผู้สมัครเติมข้อความเองผู้สมัครควรที่จะเขียนการศึกษาสูงสุดที่ตนเองได้รับก่อน และเขียนการศึกษาย้อนหลังไปอีกระดับหรือสองระดับก็เป็นการเพียงพอ ส่วนใบสมัครที่ได้กำหนดระดับการศึกษาไว้ในใบสมัครแล้ว ผู้สมัครก็ต้องเขียนรายการตามที่ใบสมัครกำหนดไว้เช่น

ในบางครั้งมีการระบุว่าต้องเขียนสถานที่ตั้ง (Location) ของสถาบันการศึกษาด้วยซึ่งหมายถึงชื่อ
จังหวัดที่สถาบันนั้น ๆ ตั้งอยู่ เช่น Phuket Technical College, Phuket

 

4. การกรอกความสามารถพิเศษ (Language Proficiency) 

ความสามารถพิเศษจะแบ่งกลุ่มใหญ่ ๆได้ 2 ลักษณะ คือ

          4.1 ความสามารถทางภาษา (Language Proficiency) ภาษาต่างประเทศที่ใช้กรอก ได้แก่

  • English ภาษาอังกฤษ

  • Japanese ภาษาญี่ปุ่น

  • Chinese ภาษาจีน ควรจะระบุด้วยว่าเป็น Taechiew ภาษาจีนแต้จิ๋ว

  • Mandarin ภาษาจีนกลาง

  • Cantonese ภาษาจีนกวางตุ้ง

วิธีระบุความสามารถทางภาษาจะมีด้านต่าง ๆ เช่น Speaking, Reading, Writing, Understanding

ผู้กรอกมีวิธีการกรอกโดยเติมศัพท์ดังนี้

 

          4.2 ความสามารถด้านอื่น ๆ (Career Qualifications) ความสามารถที่จะเป็นการเพิ่มคุณสมบัติของเราเพื่อประโยชน์ในการสมัครงาน เช่น ด้านกีฬา หรือด้านอาชีพ เช่น

  • Computer repair and knowledge of software : ซ่อมคอมพิวเตอร์และมีความรู้เรื่องซอฟต์แวร์

  • Knowledge of setting up computer networks : มีความรู้ในการติดตั้งข่ายงานคอมพิวเตอร์

  • Knowledge of CAD and computer systems : มีความรู้ในการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย

  • Able to write program with BASIC, C language : สามารถเขียนโปรแกรมภาษาเบลิคและภาษาซี

  • Machine design or equipment making : การออกแบบเครื่องจักรกลหรือการสร้างอุปกรณ์

  • Mechanical engineering design : การออกแบบทางวิศวกรรมเครื่องกล

  • Knowledge in switchboard design on manufacture and wiring works : มีความรู้ด้านการออกแบบแผงสวิตซ์เพื่อการผลิต และงานเดินสายไฟฟ้า

  • Practical ability to operate PC and other OA equipment : มีความสามารถเชิงปฏิบัติในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติ

  • Ability in troubleshooting, modification and maintenance for electronics measurement equipments : มีความสามารถในการตรวจซ่อม การดัดแปร และการบำรุงรักษาอุปกรณ์การวัดทางอิเล็กทรอนิกส์

  • Working knowledge of computers using spreadsheets and data bases. : มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ สามารถใช้แผ่นตารางทำการและฐานข้อมูล

  • Goodknowledge ของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสเปรดชีตโปรแกรมสร้างฐานข้อมูลการสื่อสาร LAN และกราฟิก: มีความรู้อย่างดีด้านฮาร์ดแวร์ เครื่องประมวลคำฐานข้อมูล

  • Production planning, material supply or executing production lines process : การวางแผนการผลิต การจัดหาวัสดุ หรือการดำเนินการขบวนการสายการผลิต

  • The capability to prepare and review full-scale tenders : มีความสามารถในการเตรียมการ และวิเคราะห์การประมูลราคาโครงการขนาดใหญ่

 

          5. ประสบการณ์การทำงาน (Experience) 

              ในใบสมัครงานทุกบริษัทจะมีช่องประสบการณ์การทำงานไว้เพื่อจะได้รู้ว่าผู้สมัครนั้นเคยผ่านงานอะไรมาบ้าง การกรอกประสบการณ์ก็เหมือนกับการกรอกประวัติการศึกษาคือ ให้กรอกการทำงานล่าสุดก่อนแล้วค่อยย้อนหลังลงไปจนถึงการทำงานครั้งแรก สำหรับการกรอกประวัติการทำงานมักมีรายละเอียดดังนี้

         5.1 ตำแหน่งที่ทำงาน (Position) เช่น

  • Technician นายช่างเทคนิค

  • Foreman หัวหน้าควบคุมงาน

  • Junior Foreman หัวหน้าควบคุมงาน (ผู้ช่วย)

  • Senior Foreman หัวหน้าควบคุมงาน (ระดับสูง)

  • Supervisor ผู้ควบคุมงาน

  • Assistant Supervisor ผู้ช่วยผู้ควบคุมงาน

  • Engineer วิศวกร

  • Assistant Engineer ผู้ช่วยวิศวกร

  • Inspector ผู้ตรวจสอบ

  • Manager ผู้จัดการ

          5.2 เหตุผลที่ลาออก (Reason for Leaving) เช่น

  • ไม่มีความคืบหน้า

  • Limited career opportunity ไม่มีความก้าวหน้าในอาชีพ

  • Company Discontinued บริษัทเลิกกิจการ

  • Unsuitable Position ตำแหน่งไม่เหมาะสม

  • Contract Terminated สิ้นสุดสัญญา

  • การศึกษาต่อไป

  • To get higher education เพื่อศึกษาต่อ

  • ศึกษาต่อ

  • Military Service เพื่อเข้าเป็นทหาร

  • Needed Better Job ต้องการงานที่ดีกว่า

  • Company Loss บริษัทขาดทุน

  • Company Reduced Manpower บริษัทลดพนักงาน

  • Temporary Employ เป็นงานชั่งคราว5.3 สถานที่ทำงาน (Work Place) เช่น

  • Electricity Generating Autority of Thailand (EGAT) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

  • ประเทศไทยโรงงานยาสูบโรงงานยาสูบ

  • Metropolitan Water Works Authouity การประปานครหลวง

6. เรื่องเบ็ดเตล็ด (Miscellaneous) 

ผู้กรอกต้องกรอกในหัวข้อดังนี้

          6.1 ตำแหน่งที่สมัคร ให้กรอกตามประกาศที่รับสมัครโดยให้ตรงตามคุณวุฒิและข้อกำหนดของตำแหน่งนั้น ๆ

          6.2 เงินเดือน การกรอกเงินเดือนควรกรอกเป็นช่วงเพื่อให้นายจ้างมีทางเลือกที่จะพิจารณา เช่น 9,000 – 10,000 บาท การกรอกเงินเดือนไม่ควรให้ต่ำหรือสูงเกินไป ในกรณีที่ผู้สมัครไม่ ต้องการจะกรอกจำนวนเงิน อาจจะกรอกข้อความอย่างอื่นได้ เช่น

Negotiable เงินเดือนแล้วแต่จะตกลง

Is up to your consideration เงินเดือนแล้วแต่จะพิจารณา

ตัวอย่าง

เงินเดือนที่ต้องการ 3,000 3,500 / เดือน

ต่อรองเงินเดือน

         

          6.3 คำถามเกี่ยวกับการกระทำความผิด มีดังนี้

  • Have you ever been arrested, คุณเคยถูกจับกุมหรือไม่

  • taken into custody, เคยถูกคุมขัง

  • held for investigation, เคยถูกสอบสวน

  • the offence charged? ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด

  • Do not give minor traffic ไม่ต้องกล่าวถึงการฝ่าฝืนกฎจราจร

  • violations เล็กน้อย

     6.4 คำถามเกี่ยวกับการถือครองใบอนุญาตต่าง ๆ เช่น

  • Driving Licence / Driver s License ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์

  • Auditing Licence ใบอนุญาตการตรวจสอบบัญชี

  • Registered Engineering Licence ใบประกอบอาชีพวิศวกร

  • Certified Professional Auditor ใบประกอบอาชีพผู้ตรวจสอบบัญชี

  • Teaching Licence ใบประกอบวิชาชีพครู

ตัวอย่าง

– คุณถือใบอนุญาตใด ๆ ถ้าใช่อะไร?

– ใช่ที่ลงทะเบียนใบอนุญาตวิศวกรรม

     6.5 คำถามเกี่ยวกับการเริ่มเข้าทำงาน

– เมื่อคุณจะมีการเริ่มต้นการทำงาน?

– ฉันจะสามารถใช้ได้ / กันยายน 1 / ทุกที่ทุกเวลาที่คุณต้องการ

 

7. การเขียนผู้รับรอง (Reference) 

      ควรที่จะเขียนอย่างน้อย 2 คน หรือตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบสมัคร ซึ่งในใบสมัครงานมักจะระบุว่าผู้รับรองต้องไม่ใช่ญาติ (Relatives) กับผู้สมัคร การเขียน ชื่อ สกุล ผู้รับรองนั้นต้องมีคำรำหน้านามเสมอ ในกรณีผู้รับรองมียศทางทหาร / ตำรวจ หรือตำแหน่งทางราชการ บริหาร/ การเมือง หรือตำแหน่งทางวิชาการ (ผศ. Asst. prof. รศ. Assoc. Prof. ศ. Prof) ควรที่จะเขียนด้วยเพื่อความน่าเชื่อถือ

ตัวอย่าง

การอ้างอิง – ครูคนมืออาชีพและธุรกิจที่ได้รู้จักคุณ

กว่าห้าปี ไม่ได้ใช้ชื่อของญาติ

เป็นยังไงกันบ้างทีนี้เวลาจะไปสมัครงานที่ไหน ก็กรอกตามนี้นะ ได้งานชัวร์ๆ!

แหล่งอ้างอิง

https://milkkieblog.wordpress.com/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1/

bottom of page