การอ่านเอกสารราชการในEveryday !
การอ่านเอกสารต่างๆ โดยเฉพาะเอกสารที่เป็นราชการ(Office Documents) เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ตลอดชีวิตของคนเราย่อมต้องมีช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่จำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับทางราชการในฐานะที่เป็นพลเมืองของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการทำบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือแม้แต่หนังสือเดินทาง ในวันนี้ English Everyday จึงขอยกตัวอย่างการเขียนเอกสารราชการที่เราอาจพบเจอในชีวิตประจำวัน และคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเอกสาร ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย!
https://ctuservice.wordpress.com/2012/08/14/371/
ก่อนที่เราจะไปดูเอกสารราชการ เราต้องรู้คำศัพท์เสียก่อนว่า มันมีความหมายอย่างไร เพื่อที่เราจะได้กรอกข้อมูลให้ถูกต้อง โดยทั่วไป เอกสารอาจจะมีช่องที่ต้องกรอกเหมือนกัน เช่น ชื่อ นามสกุล เป็นต้น ดังนั้นวันนี้จะยกเฉพาะคำศัพท์ที่มีในเอกสารทั่วๆไป
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเอกสาร
1.Family name หรือ surname
หมายถึงนามสกุล ซึ่งเป็นชื่อเรียกเป็นทางการของชาวตะวันตก ชื่อต้นมักจะใช้เรียกเฉพาะในหมู่ญาติหรือผู้ที่คุ้นเคย ชื่อต้นเรียกว่าFirst name, Forename หรือ Christian name สำหรับสตรีที่สมรสแล้วบางครั้งต้องใช้นามสกุลก่อนสมรสด้วย เรียกว่า Maiden name
2.Initial
คือ ชื่อย่อ เนื่องจากชาวตะวันตกนิยมมีชื่อต้นมากกว่าหนึ่งชื่อ (ชื่อต้นเรียก First name หรือ Forename ชื่อต้นคำที่สองเรียกว่า middle name) แต่เวลาใช้เรียกจะไม่เรียกชื่อทั้งหมด ในโอกาสที่เป็นทางการหากต้องใช้ชื่อต้นทั้งหมดก็จะใช้แต่เพียงตัวย่อ เช่น ชื่อนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่สองมีชื่อเต็มดังนี้ Winston Spencer Churchill ในการเขียนบางครั้งใช้ชื่อกลางเป็นตัวย่อคือ Winston S. Churchill หรืออาจใช้ชื่อต้นเป็นตัวย่อทั้งหมดคือ W.S. Churchill สําหรับชื่อที่ใช้เรียกกันทั่วไปในโอกาสที่ไม่เป็นทางการคือ Winston Churchill.
3.Sex (คลิ๊กที่คำเพื่อดูคำศัพท์เพิ่มเติม)
คือ เพศ เพศชาย (male) หรือ เพศหญิง (female) ในการกรอกExpresio ฟอร์มบางครั้งผู้กรอกต้องเขียนคําใดคําหนึ่งลงไป บางครั้งมีคํา male และ female พิมพ์ไว้ให้แล้ว ผู้กรอกเพียงแต่ทําเครื่องหมาย ถูก หรือ กากบาท หน้าคําที่บอกเพศของตนเท่านั้น
4 Marital Status (คลิ๊กที่คำเพื่อดูคำศัพท์เพิ่มเติม)
คือ สถานภาพสมรส หากสมรสแล้วใช้คํา married เลย หากยังโสดใช้ single หรือหย่าใช้ divorced บางครั้งข้อมูลที่ต้องการจะละเอียดมาก . เพราะอาจเกี่ยวกับแง่กฎหมาย จึงใช้คํา separated หมายถึงสมรสแล้วแยกกันอยู่แต่ไม่ได้หย่าขาดจากกันตามกฎหมาย คําที่ใช้หมายถึงคู่สมรสคือ spouse ซึ่งจะหมายความถึงสามีหรือภรรยาก็ได้
5 Date of birth
คือ วัน เดือน ปีเกิด ตามแบบสากลใช้ปี ค.ศ.
6 Age
คือ อายุ บางครั้งแบบฟอร์มอาจต้องการให้กรอกอายุ แทนกรอกวัน เดือน ปีเกิด
7 Place of birth
คือ สถานที่เกิด หมายถึงชื่อเมือง และชื่อประเทศ
8 Nationality (คลิ๊กที่คำเพื่อดูคำศัพท์เพิ่มเติม)
คือ สัญชาติ
9 Occupation (คลิ๊กที่คำเพื่อดูคำศัพท์เพิ่มเติม)
คือ อาชีพ บางครั้งใช้ Profession
10 Permanent address
คือ ที่อยู่ถาวร ส่วน temporary address คือที่อยู่ชั่วคราว ในบางกรณีอาจจะต้องกรอกเอกสารทั้งสองอย่างเลย
11 Height
คือ ส่วนสูง อาจใช้ระบบเมตร (meters) และเซนติเมตร (cenimeters) โดยเขียนย่อว่า m. และ cm. หรือระบบนิ้ว ฟุต (inches and feet)
12 Educational qualifications (คลิ๊กที่คำเพื่อดูคำศัพท์เพิ่มเติม)
คือ การศึกษา ในการกรอกข้อมูลเกี่ยวกับพื้นฐานการ ศึกษา จะเริ่มด้วยชื่อปริญญาบัตร วิชาที่จบ สถานศึกษา และปีที่จษ เช่น B. Sc. (Engineering), London University, 1980. บางครั้งหัวข้อนี้อาจใช้คําว่า Diplomas หรือ Degrees ซึ่งหมายถึงประกาศนียบัตร หรือปริญญาบัตร ซึ่งใช้แทนกันได้
13 Driving licence no.
คือเลขทะเบียนใบขับขี่ ตามแบบอเมริกัน จะใช้ Driver's license
14 Distinguishing marks, scars or blemish
คือ ตําหนิของบุคคลนั้นอาจ เป็นรอยตําหนิที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดหรือรอยแผลเป็นก็ได้ เช่น อาจกรอกว่า scar on lower left leg (แผลเป็นที่ขาซ้ายด้านล่าง) หากเป็นปานเรียก birthmark หรือไฝเรียก mole
15 Block letters
คือ การเขียนด้วยอักษรตัวพิมพ์ภาษาอังกฤษเพื่อให้อ่านง่าย ป้องกันการสับสนโดยเฉพาะชื่อคน
16 Signature
คือ ลายเซ็น ในการกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ ผู้กรอกจะต้อง ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน หากเป็นเอกสาร เช่น หนังสือเดินทางหรือเช็ค ผู้กรอกจะ ต้องใช้ลายเซ็นเดียวกันทุกครั้งให้ตรงกัน มิฉะนั้นจะนําไปใช้ไม่ได้
เป็นยังไงกันบ้างรู้จัก แล้วใช่มั้ยว่า คำนี้มีความหมายว่าอะไร ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมสามารถ
คลิ๊กที่นี่ เพื่อรับชมคำศัพท์ในหมวดนั้นๆ เพิ่มได้นะคะ! เอาล่ะ ต่อจากนี้ English everyday จะขอยกตัวอย่างแบบฟอร์มการกรอกเอกสารต่างๆที่อาจพบได้ในEveryday !
การกรอบแบบฟอร์มใหม่ในการสมัครวีซ่าเข้าสหรัฐฯ (รูปแบบออนไลน์)
ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่า Visa กับ Passport นั้นต่างกัน Passport คือหนังสือเดินทางซึ่งทุกคนจำเป็นต้องมี ออกโดยกระทรวงการต่างประเทศที่บุคคลนั้นอาศัยอยู่ ส่วน Visa คือใบอนุญาตให้เข้าประเทศหนึ่งที่เรากำลังจะเดินทางไป ออกโดยสถานทูต เอาล่ะ วันนี้จะขอยกตัวอย่างเป็น Visa ของอเมริกานะคะ !
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ผู้ที่ยื่นเรื่องสมัครวีซ่าชั่วคราวทุกคน ยกเว้นวีซ่าคู่หมั้น (K-1-4) ที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยต้องยื่นแบบฟอร์มสมัครวีซ่าแบบใหม่ คือ แบบฟอร์มการสมัครวีซ่าทางอิเล็กทรอนิกส์DS-160 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ พัฒนาแบบฟอร์มสมัครวีซ่าใหม่นี้ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะทำให้กระบวนการของการสมัครวีซ่า กระชับขึ้นและเรียบง่ายขึ้น รวมทั้งเป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครวีซ่าให้มากขึ้น แบบฟอร์มสมัครวีซ่าใหม่นี้มีประโยชน์กับผู้สมัครวีซ่าหลายประการ
1.สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเริ่มกรอกข้อมูล
บัตรประจำตัวประชาชน
หนังสือเดินทาง
รายละเอียดการเดินทาง
ประวัติการทำงาน
ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อ รวมถึงข้อมูลการเดินทางที่สำคัญอื่นๆ
รูปถ่ายดิจิทัล (รูปถ่ายต้องถ่ายมาไม่เกิน 6 เดือน, รูปถ่ายต้องมีขนาด 2x2 นิ้ว (5x5 ซ.ม.) รูปถ่ายช่วงศีรษะของผู้สมัครต้องมีขนาดระหว่าง 1 นิ้ว ถึง 1 3/8 นิ้ว (2.5 ถึง3.5 ซ.ม.) เมื่อวัด ในแนวตั้ง, พื้นหลังรูปถ่ายต้องเป็นสีอ่อนเรียบๆ เป็นภาพถ่ายใบหน้าตรงและผู้สมัครมองตรงที่กล้อง)
2.การกรอกข้อมูล
2.1 สามารถเข้าสู่แบบฟอร์ม DS-160 ได้จากเว็บไซต์ศูนย์การสมัครวีซ่าทางอิเล็กทรอนิกส์ของ กระทรวงการต่างประเทศได้ที่ https://ceac.state.gov/genniv/
2.2 โปรดอ่านคำแนะนำอย่างละเอียด จากนั้น คลิกที่ “Start Application” ด้านล่างของหน้าเพื่อ เริ่มการสมัครวีซ่าทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แบบฟอร์ม DS-160
เครื่องมือเลือกภาษา
แบบฟอร์มการสมัครวีซ่าทางอิเล็กทรอนิกส์ DS-160
มีเป็นภาษา อังกฤษเท่านั้น อย่างไรก็ดี
ท่านอาจเลือกภาษาอื่นได้ เช่น ภาษาไทย
จากหน้าต่าง “Select Tooltip Language”
ที่ด้านบนของหน้าเพื่อเลือกภาษาที่ท่านต้องการ
เมื่อท่านเลือก ภาษาที่ต้องการแล้ว
ท่านจะเห็นคำแปลเป็นภาษานั้นๆ
เมื่อเลื่อนเม้าส์ไปบนข้อความภาษาอังกฤษ
โปรดทราบว่า คำตอบของท่าน
ทุกคำตอบจะต้องเขียนเป็นอักษร ภาษาอังกฤษเท่านั้น
ยกเว้นข้อที่ระบุไว้เฉพาะเท่านั้น
2.3 เลือกสถานที่ (เมืองและประเทศ) ที่ท่านจะยื่นใบสมัคร (เช่น กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย) จากนั้น คลิกที่ “Option A” หากท่านเริ่มการสมัครออนไลน์ครั้งใหม่ หรือ “Option B” เพื่ออัพ โหลดแบบฟอร์มที่ท่านได้เคยจัดเก็บไว้ก่อนหน้า
2.4 หากท่านกำลังอัพโหลดใบสมัครที่ท่านได้จัดเก็บไว้ก่อนหน้านี้ ให้หาแฟ้มข้อมูลของท่าน (.dat format) จากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่นๆ ด้วยการคลิกที่คำว่า “Browse” กรอก อักษรห้าตัวแรกของชื่อสกุลและปีเกิดของท่านตามค าสั่ง เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล จากนั้น คลิก “Upload Data”
3.กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม DS-160 ให้ครบถ้วน
3.1 ใส่ชื่อเต็ม (ชื่อแรกและชื่อสกุล) เป็นภาษาอังกฤษ เขียนชื่อทั้งหมดให้ครบถ้วนและถูกต้อง ตรง ตามที่ระบุในหนังสือเดินทางของท่าน ใส่ชื่อกลางด้วย หากมี และกรุณาเขียนชื่อเต็มของ ท่านโดยใช้อักษรในภาษาประจำชาติของท่าน
3.2 กรุณาตอบ “Yes” หรือ “No” สำหรับคำถามที่ว่าท่านเคยใช้ชื่ออื่นๆ ในช่วงชีวิตของท่านหรือไม่ เช่น ชื่อสกุลเดิมก่อนสมรส ชื่อทางศาสนา ชื่อที่ใช้ในอาชีพ เป็นต้น กรุณาเขียนชื่อให้ตรง ตามที่เขียนในหนังสือเดินทางของท่าน การสะกดชื่อต่างจากนั้นให้เขียนใน “Other Names” ในส่วน “Personal Information” ของแบบฟอร์ม DS-160 กรุณาแจ้งชื่อทุกชื่อที่เคยใช้ หาก ไม่ได้แจ้ง อาจทำให้กระบวนการสมัครวีซ่าของท่านต้องล่าช้าออกไป
3.4 ระบุเพศและสถานภาพสมรสของท่าน
3.5 กรอกวันเดือนปีเกิดและสถานที่เกิด หากไม่ทราบวันและเดือนเกิด ให้ระบุเหมือนที่ปรากฏอยู่ ในหนังสือเดินทาง
3.6 กรอกสัญชาติและข้อมูลเกี่ยวกับการระบุสัญชาติ คลิก “Does Not Apply” หากท่านไม่มีเลข บัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขประกันสังคมของสหรัฐฯ หรือหมายเลขผู้เสียภาษีสหรัฐฯ
ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์
3.7 กรอกข้อมูลรายละเอียดที่พักอาศัยปัจจุบันของท่าน โปรดทราบว่าแบบฟอร์มการสมัครวีซ่า ทางอิเล็กทรอนิกส์ DS-160ไม่รับเครื่องหมาย (/) ว่าเป็นอักษรที่ถูกต้อง ส าหรับที่อยู่ที่มี เครื่องหมาย (/) กรุณาใช้เครื่องหมาย (-)แทน เช่น ถนนวิทยุ เลขที่191/2 ควรเขียนว่า ถนน วิทยุ เลขที่191-2
3.8 ตอบ “Yes” หรือ “No” สำหรับคำถามที่ว่า “ที่พักอาศัย” ของท่านเป็นที่เดียวกับ “ที่ติดต่อทาง ไปรษณีย์” ของท่านหรือไม่ โปรดทราบว่าที่ติดต่อทางไปรษณีย์ของท่านควรเป็นที่ที่ท่าน ต้องการให้ส่งหนังสือเดินทางของท่านไปหากท่านได้รับวีซ่า
3.9 ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับที่พัก ที่ทำงาน หมายเลขโทรสารและหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ถ้ามี หากท่านไม่ได้กรอกข้อมูลใดลงในช่องหมายเลขโทรศัพท์ อย่าลืมคลิกที่ “Does Not Apply”
3.10 ระบุที่อยู่ทางอีเมล์ของท่าน การระบุที่อยู่ทางอีเมล์มีความส าคัญมากในกรณีที่เราต้องติดต่อ ท่านก่อนวันนัดสัมภาษณ์ หากท่านไม่มีที่อยู่ทางอีเมล์กรุณาคลิก “Does Not Apply”
4.ข้อมูลหนังสือเดินทาง
4.1.กรอกหมายเลขหนังสือเดินทางและเลขที่ของหนังสือเดินทางของท่าน หากมี (ดูรูปในหน้า ถัดไป) หมายเหตุ: เลขที่ของหนังสือเดินทางมักเรียกว่า inventory control number ท่าน อาจจะมีหรือไม่มีเลขที่ของหนังสือเดินทางบนหนังสือเดินทางของท่าน ถ้าหนังสือเดินทางของ ท่านไม่มีเลขที่ของหนังสือเดินทาง กรุณาคลิก “Does Not Apply”
4.2 กรอกชื่อประเทศ/หน่วยงานที่ออกหนังสือเดินทาง และเมือง รัฐ/จังหวัดและประเทศที่ออก หนังสือเดินทาง
4.3. กรอกวันที่ที่ออกและวันหมดอายุของหนังสือเดินทาง โปรดทราบว่า ในกรณีส่วนใหญ่แล้ว หนังสือเดินทางของท่านจะต้องมีอายุใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือนหลังจากวันที่ท่านสมัครวีซ่า และ/หรือวันที่ท่านเดินทางถึงสหรัฐอเมริกา
4.4 กรุณาตอบ “Yes” หรือ “No” สำหรับคำถามที่ว่าหนังสือเดินทางของท่านเคยหายหรือเคยถูก ขโมยหรือไม่
5.แผนการเดินทาง
5.1 ตอบ “Yes” หรือ “No” ส าหรับคำถามว่าท่านเป็นผู้สมัครหลักหรือไม่ (ดูรูปในหน้าถัดไป) หาก ผู้อื่นกรอกแบบฟอร์ม DS-160แทนท่าน หรือ ท่านเดินทางกับคู่สมรสหรือสมาชิกในครอบครัว ที่เป็นผู้สมัครหลัก กรุณาตอบ “No” และตอบคำถามเพิ่มเติม
5.2 เลือกวัตถุประสงค์ของการเดินทางเข้าสหรัฐฯ จากรายการเลื่อนลง หากท่านไม่เห็น วัตถุประสงค์ของการเดินทางที่ต้องการ เลือก “Other” เพื่อหาตัวเลือกอื่น
5.3 กรอกวันที่ที่ท่านตั้งใจเดินทางถึงและระยะเวลาที่ตั้งใจพานักในสหรัฐฯ โปรดทราบว่า ถ้าท่าน ไม่แน่ใจเกี่ยวกับแผนเดินทางที่แน่นอน กรุณาเขียนประมาณการณ์ที่ใกล้เคียงที่สุด 5.4 ระบุที่อยู่ที่ท่านจะพานักระหว่างที่อยู่ในสหรัฐฯ หากท่านพักกับญาติ (เช่น บุตรชาย บุตรสาว ลุง ป้า น้า อา) กรุณาใส่ชื่อและที่อยู่ของคนเหล่านั้น หากท่านพักที่โรงแรม กรุณาระบุชื่อและที่ อยู่ของโรงแรมด้วย
5.5 ระบุชื่อบุคคลหรือองค์กรที่จ่ายค่าใช้จ่ายการเดินทางไปสหรัฐฯ ของท่าน หากบุคคลหรือ องค์กรอื่นที่ไม่ใช่ท่านเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายการเดินทางของท่าน กรุณาระบุรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับบุคคลหรือองค์กรนั้นๆ
6.ผู้ร่วมเดินทาง
6.1 ตอบ “Yes” หรือ “No” ส าหรับค าถามว่าท่านจะเดินทางกับผู้อื่นในการเดินทางไปสหรัฐฯ ของ ท่านหรือไม่ ท่านควรจะตอบ “Yes” หากท่านเดินทางไปกับครอบครัวหรือไปกับคณะเดินทาง ท่องเที่ยว หรือเป็นส่วนหนึ่งของคณะการแสดงหรือคณะนักกีฬา โปรดทราบว่า ท่านไม่ต้อง เขียนชื่อบุคคลที่เดินทางไปกับท่านสำหรับวัตถุประสงค์การจ้างงานกับผู้ว่าจ้างรายเดียวกัน
6.2 หากท่านตอบ “Yes” กรุณาระบุชื่อของกลุ่มหรือบุคคลที่ท่านเดินทางด้วย
7.ข้อมูลการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ที่ผ่านมา
7.1.ตอบ “Yes” หรือ “No” ส าหรับคำถามว่าท่านเคยเดินทางเข้าสหรัฐฯ มาก่อนหรือไม่ ถ้าท่าน ตอบว่า “Yes” กรุณาให้รายละเอียดที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับการเดินทางที่ผ่านมาของ ท่าน รวมทั้งระบุด้วยว่าท่านเคยมีใบขับขี่ของสหรัฐฯ หรือไม่ หากท่านไม่แน่ใจว่าท่านไป สหรัฐฯ ครั้งสุดท้ายเมื่อใด กรุณาระบุวันเดือนปีของการเดินทางครั้งที่ผ่านมาที่ใกล้เคียงที่สุด
7.2 ตอบ “Yes” หรือ “No” สำหรับคำถามว่าท่านเคยได้รับวีซ่าเข้าสหรัฐฯ หรือไม่
7.3 ตอบ “Yes” หรือ “No” ส าหรับคำถามว่าท่านเคยถูกปฏิเสธวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ถูกปฏิเสธเข้า สหรัฐฯ หรือท่านถอนเรื่องขอเข้าสหรัฐฯ เมื่อเดินทางถึงด่านเข้าเมืองหรือไม่
8.บุคคลที่ท่านติดต่อในสหรัฐฯ
8.1 กรอกชื่อและข้อมูลติดต่อของบุคคลในสหรัฐฯ บุคคลที่ติดต่อได้ของท่านในสหรัฐฯ อาจเป็น ใครก็ได้ในสหรัฐฯ ที่รู้จักท่านและสามารถพิสูจน์รูปพรรณของท่านได้ หากจำเป็น โปรดทราบ ว่า หากท่านไม่รู้จักผู้ใดในสหรัฐฯ ท่านอาจจะเขียนชื่อร้านค้า บริษัทหรือองค์กรที่ท่านวางแผน จะไปในระหว่างการเยือนสหรัฐฯ ของท่าน
9.ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัว.
9.1 กรุณาระบุชื่อเต็มและวันเดือนปีเกิดของบิดาของท่าน ถ้าท่านไม่ทราบชื่อและ/หรือวันเดือนปี เกิดของบิดาของท่าน กรุณาคลิก “Do Not Know” กรุณาตอบว่า “Yes” หรือ “No” ส าหรับ ค าถามว่าบิดาของท่านพ านักอยู่ในสหรัฐฯ หรือไม่
9.2 กรุณาระบุชื่อเต็มและวันเดือนปีเกิดของมารดาของท่าน ถ้าท่านไม่ทราบชื่อและ/หรือวันเดือนปี เกิดของมารดาของท่าน กรุณาคลิก “Do Not Know” กรุณาตอบว่า “Yes” หรือ “No” สำหรับ คำถามว่ามารดาของท่านพานักอยู่ในสหรัฐฯ หรือไม่
9.3 ตอบว่า “Yes” หรือ “No” สำหรับคำถามที่ว่าท่านมีญาติใกล้ชิดพ านักอยู่ในสหรัฐฯ หรือไม่ โปรดทราบว่า สำหรับวัตถุประสงค์ของแบบฟอร์ม DS-160 นั้น “ญาติใกล้ชิด” หมายถึง คู่หมั้น คู่สมรส (สามี/ภรรยา) บุตร (บุตรชาย/บุตรหญิง) และ/หรือ พี่น้อง (พี่น้องชาย/พี่น้องหญิง) “ญาติใกล้ชิด” ไม่ได้รวมถึงบิดามารดา หากท่านตอบว่า “Yes” กรุณาให้รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาคลิก “Add Another” เพื่อเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับญาติใกล้ชิดที่มีมากกว่าหนึ่งคนที่อยู่ ในสหรัฐฯ
9.4 กรุณาตอบว่า “Yes” หรือ “No” ส าหรับคำถามที่ว่าท่านมีญาติอื่นๆ ที่พำนักอยู่ในสหรัฐฯ หรือไม่
9.5(หากมี) ระบุชื่อเต็มของคู่สมรส (สามี/ภรรยา) รวมถึงชื่อสกุลเดิมก่อนสมรสของภรรยา กรุณา ใส่ข้อมูลของคู่สมรสคนปัจจุบันของท่าน หากท่านหย่า กรุณาใส่ข้อมูลของอดีตคู่สมรสของท่าน
วีซ่านักเรียนและวีซ่าผู้ร่วมโครงการแลกเปลี่ยน
1. หากท่านต้องการสมัครวีซ่านักเรียนหรือวีซ่าผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน (วีซ่าF, M, หรือJ) ท่านจะต้องระบุชื่อบุคคลอย่างน้อยสองคนในประเทศที่ท่านพำนักอยู่ ซึ่งสามารถรับรองข้อมูล ที่ท่านกรอกไว้ในแบบฟอร์ม DS-160 ห้ามระบุชื่อญาติใกล้ชิดหรือญาติคนอื่นๆ ของท่าน 2. หากท่านต้องการสมัครวีซ่านักเรียนหรือวีซ่าผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน (วีซ่าF, M, หรือJ) กรุณาระบุหมายเลข SEVIS ของท่านด้วย
3. หากท่านต้องการสมัครวีซ่านักเรียนหรือวีซ่าผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน (วีซ่าF, M, หรือJ) ท่านจะต้องระบุรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบันที่ท่านประสงค์จะศึกษา รวมทั้งชื่อสถาบัน ชื่อหลักสูตร ที่อยู่ของสถาบัน ฯลฯ
การอัพโหลดรูปถ่าย
1. ขณะนี้ถึงเวลาที่ท่านจะอัพโหลดรูปถ่ายของท่านลงในแบบฟอร์ม DS-160 แล้ว กรุณาคลิกปุ่ม “Upload Your Photo” เพื่อ เข้าสู่ระบบการอัพโหลดรูปถ่าย
2. เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว กรุณาอ่านวิธีอัพโหลดรูปถ่ายที่มีมาตรฐานตรงตามข้อกำหนดสำหรับการ สมัครวีซ่าชั่วคราวของท่าน คลิกปุ่ม “Browse" เพื่อเลือกตำแหน่งของไฟล์รูปถ่ายดิจิทัลที่ท่าน ประสงค์จะอัพโหลด หลังจากท่านเลือกรูปถ่ายแล้ว (ต้องเป็นไฟล์ .jpg เท่านั้น) คลิกปุ่ม "Upload Select Photo" ถ้าระบบแจ้งว่ารูปถ่ายของท่านเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ท่าน จะต้องกลับไปที่จอ “Confirm Photo” เพื่อปฏิบัติขั้นตอนต่อไปในการสมัคร
ตรวจสอบข้อมูลของท่าน
1.ขณะนี้ ท่านจะมีโอกาสตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลทั้งหมดที่ท่านกรอกไว้ในแบบฟอร์ม DS-160 กรุณาตรวจสอบข้อมูลที่ท่านกรอกอย่างละเอียดถี่ถ้วน หากท่านต้องการแก้ไขข้อมูล กรุณา คลิกที่ลิงค์ “Edit Information” บริเวณข้อความที่ท่านต้องการแก้ไข กรุณาตรวจสอบว่าข้อมูลทั้งหมดครบถ้วนและถูกต้อง ท่านไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ หลังจากส่งใบสมัครแล้ว
เซ็นชื่อและส่งใบสมัคร
1. อ่านข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนลงวันที่ เซ็นชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ และส่งใบสมัคร DS-160 ของท่าน กรอกหมายเลขหนังสือเดินทางและรหัสที่ท่านเห็นในช่องด้านขวามือ และคลิกปุ่ม “Sign and Submit Application” การที่ท่านคลิกปุ่มดังกล่าวถือเป็นการเซ็นชื่อทาง อิเล็กทรอนิกส์ของท่าน และเป็นการรับรองว่าค าตอบทั้งหมดของท่านในแบบฟอร์ม DS-160 เป็นความจริงทุกประการ
พิมพ์หน้ายืนยัน
1. ท่าน ต้อง สั่งพิมพ์หน้ายืนยัน (ดูตัวอย่างหน้าถัดไป) โดยเอกสารที่พิมพ์ออกมา ต้อง แสดง แถบบาร์โคดที่ชัดเจนและสามารถอ่านได้ กรุณาน าหน้ายืนยันดังกล่าวมาในวันสัมภาษณ์ด้วย พร้อมกับหนังสือเดินทางและเอกสารอื่นๆ ที่อาจต้องใช้ 1 The DS-160 Electronic Visa Application Form: A Step-by-Step Guide 29
2. ในกรณีที่ท่านไม่สามารถอัพโหลดรูปถ่ายดิจิทัลของท่านได้ ท่าน ต้อง น ารูปถ่ายตัวจริงที่ เป็นไปตามมาตรฐานที่ก าหนดมาในวันสัมภาษณ์ด้วย เราไม่สามารถรับรูปถ่ายดิจิทัลในวัน สัมภาษณ์ได้
3. ท่านอาจพิมพ์ใบสมัครทั้งชุดเก็บไว้เป็นหลักฐานของตนเองได้ แต่ในวันสัมภาษณ์ ท่านเพียง น าเฉพาะหน้ายืนยันที่พิมพ์ออกมาเท่านั้นมาด้วย
4. ท่านอาจส่งอีเมล์หน้ายืนยันไปให้ตัวเองหรือบุคคลอื่น (เช่น ส่งไปให้ผู้สมัครวีซ่าถ้าท่านกรอก แบบฟอร์ม DS-160แทนผู้สมัคร)
ในประเทศไทย การเข้าสัมภาษณ์วีซ่าชั่วคราวจะต้องมีการนัดล่วงหน้าไว้แล้วเท่านั้น ท่านสามารถ จองวันสัมภาษณ์วีซ่าชั่วคราวทางอินเตอร์เน็ตได้ที่เว็บไซต์ http://thailand.us-visaservices.com หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลการสมัครวีซ่าและการจองวันสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ที่001-800-13- 202-2457 ท่านจะต้องซื้อหมายเลขใช้เฉพาะบุคคล (PIN) เพื่อเข้าสู่ระบบบริการข้อมูลการสมัครวีซ่าและ การจองวันสัมภาษณ์ ท่านสามารถซื้อหมายเลขใช้เฉพาะบุคคล(PIN)ดังกล่าวได้ทางอินเตอร์เน็ต หรือซื้อทางโทรศัพท์ที่ 001-800-13-202-2457 โดยใช้บัตรเครดิต หรือซื้อ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ ร่วมโครงการ สำหรับรายละเอียดการซื้อและการใช้งานหมายเลขใช้เฉพาะบุคคล(PIN) โปรดดู หัวข้อ การซื้อและการใช้งานหมายเลขเฉพาะบุคคล(PIN) ในเว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐฯ
ในการจองวันสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตฯ ผ่าน ศูนย์ บริการข้อมูลการสมัครวีซ่านั้น ท่านจะต้องแจ้ง หมายเลขยืนยันการกรอกและส่งแบบฟอร์ม DS- 160(DS-160 confirmation number) ของ ท่าน ซึ่ง อยู่บน”หน้ายืนยัน”ของแบบฟอร์ม DS-160 ผู้สมัคร วีซ่าชั่วคราวส่วนใหญ่ต้องจ่าย ค่าธรรมเนียมสำหรับ การสมัครวีซ่าแบบที่สามารถอ่านได้ด้วยเครื่อง (MRV) ซึ่งเมื่อชำระ แล้วไม่สามารถคืนเงินได้เฉพาะผู้สมัครที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กงสุลว่าได้รับการยกเว้น ค่าธรรมเนียมนี้เท่านั้นที่ไม่ต้องชำระเงิน อัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวขึ้นอยู่กับชนิดของวีซ่าที่ท่านสมัคร
อีกหนึ่งตัวอย่างคือ
แบบฟอร์มแบบการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย สำหรับเจ้าบ้าน เจ้าของ หรือผู้ครอบครองเคหะสถาน
สำหรับแบบการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย นั้น มีสามารถ กรอกได้สามช่องทาง แต่ในวันนี้ English everyday เสนอวิธีการ กรอกแบบ นำ เอกสารมาแจ้งด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้
ผู้อื่นนำเอกสารมาแจ้ง แบบฟอร์มนี้อาจจะไม่ ได้เห็นบ่อยในชีวิตประจำวันมากนัก และไม่ ค่อยมีคนรู้จักหรือสนใจ แต่English everyday นำมาบอก เพราะเผื่อคุณต้องใช้และต้องการรู้ คำศัพท์ในฟอร์มนี้ และนี่คือคำศัพท์ภาษา อังกฤษ ในฟอร์มนี้ กรอกให้ถูกนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะ!
https://www.bangkok-suzuki.jp/tm30.pdf
เป็นยังไงกันบ้าง ? ต่อไปนี้คุณจะกรอกแบบฟอร์มถูกแน่นอน
แหล่งอ้างอิง
https://th.usembassy.gov/wp-content/uploads/sites/90/2016/05/ds_160_step_by_step_guide_thai.pdf