top of page

Speak ไม่มีสะดุดกับสถานการณ์ในEvery day!

        เคยไหม? ที่เจอสถานการณ์ต้องสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ดันนึกประโยคไม่ออก วันนี้ English everyday จะขอพาทุกท่านมาลองพูดประโยคบทสนทนาที่อาจพบได้ในชีวิตประจำวัน แบ่งเป็น 4 สถานการณ์ด้วยกัน ไปฝึกพูดด้วยกันเลย!

1.การแนะนำตัว

สำนวนในการแนะนำตัว

May I introduce my self. My name is…..

(เม ไอ อินโทรดิ๊วซ์ มาย เซ๊ลฟ. มาย เนม อีส)

ดิฉันขออนุญาตแนะนำตัวเองนะคะ ฉันชื่อ…..

 

Let me introduce my self. My name is…..

(เล็ท มี อินโทรดิวซ์ มาย เซ๊ลฟ. มาย เนม อีส )

ผมขออนุญาตแนะนำตัวเองนะครับ ผมชื่อ.....

การแนะนำตัวแบบเป็นกันเอง

          ถ้าไม่เป็นทางการก็ใช้คำทักทายแบบไม่เป็นทางการนั่นคือ Hi, Hello, Hey เช่น

  • Hi, I’m kookkai.  หวัดดี ฉันกุ๊กไก่นะ

  • Hello, my name’s Pop. สวัสดี ฉันชื่อป็อป

  • Hey, I’m Oat. หวัดดี ผมโอ๊ต

 

การแนะนำแบบเป็นทางการ

          ถ้าเป็นทางการก็ใช้คำทักทายแบบตามช่วงเวลา คือ Good morning, Good afternoon, Good evening แล้วใช้ชื่อสกุลแบบเต็ม เช่น

  • Good morning. My name is Karantharud Tangcharoen.
    สวัสดีตอนเช้า ฉันชื่อกรัณฑารัษฐ์ ตั้งเจริญ.

  • Good afternoon, ladies and gentlemen. My name is Leena marasa.
    สวัสดียามบ่ายท่านสุภาพบุรุษ และท่านสุภาพสตรี ดิฉันชื่อลีนา มาราสา

  • Good evening. My name is Robert Hammon. 
    สวัสดียามเย็น ผมชื่อโรเบิต ฮัมมอนท์

 

การแนะนำตัวที่อาจจะใช้ในการสัมภาษณ์เรียนต่อ

  • May I introduce my self. My name is Karantharud Tangcharoen

        ฉันขออนุญาตแนะนำตัวเองฉันชื่อกรัณฑารัษฐ์ ตั้งเจริญ

  • I’m studying at Yothinburana school.

        ฉันกำลังศึกษาที่โรงเรียนโยธินบูรณะ

  • My major was English – Math

       สายการศึกษา คือ ภาษาอังกฤษ – คณิตศาสตร์

 

 

2.Leave talking

ในสถานการณ์ก่อนอำลา จากกันเราควรจะพูดยังไงดี!?

การกล่าวอำลาโดยทั่วไป

Good day

(กุด เดย์)

ลาก่อนใช้ลาตอนกลางวัน แต่ไม่นิยมใช้

 

Good bye

(กุด บาย)

ลาก่อน ใช้ได้ทุกเวลา

 

          การกล่าวทักทายก่อนจากกัน และแสดงความคาดหวังว่าจะเจอกันใหม่ในครั้งต่อไป

  • See you.              แล้วเจอกันนะ

  • See you again.  แล้วพบกันใหม่

  • See you later.    แล้วเจอกันอีกนะ

  • See you soon.    แล้วพบกันใหม่เร็วๆนี้นะ

  • See you again next time.    พบกันใหม่โอกาสหน้า

 

การกล่าวทักทายก่อนจากกัน ในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องไปที่อื่นต่อหรือมีธุระสำคัญ

  • I’ve to go now.     ฉันต้องไปแล้วล่ะ

  • It’s time to say good bye. ถึงเวลาบอกลาแล้วล่ะ

  • I really must be going     ฉันต้องไปจริงๆแล้ว

 

3.การกล่าวขอบคุณ

          การกล่าวขอบคุณนั้นเป็นหนึ่งในมารยาทดีงามซึ่งผู้พูดนั้นแสดงความซาบซึ้งจากการที่ได้รับสิ่งที่ดีหรือได้รับการช่วยเหลือ เราจะพูดขอบคุณยังไงได้บ้างนะ!

การขอบคุณ

Thank you/ Thanks

(แธ้งค คิ๊ว) / (แธ้งคส)

   ขอบคุณ

Thank you very much

(แธ้งค คิ๊ว เวรี่ มัช)

      ขอบคุณมาก

         

          นอกจากนั้นเราอาจใช้สำนวนนอกเหนือจากคำว่า Thank you แต่จะเป็นการแสดงความรู้สึกแทน

  • I really appreciate that.     ฉันรู้สึกซาบซึ้งมากค่ะ

  • How very kind of you.         คุณช่างเป็นคนใจดีอะไรแบบนี้

  • How thoughtful of you.     คุณเป็นคนช่างเอาใจใส่ดีจริงๆ

 

          ตอบรับคำขอบคุณ

  • You’re welcome.     ด้วยความยินดี

  • My pleasure.           ด้วยความยินดี

  • No problem.            ไม่มีปัญหา   

   4.การกล่าวคำขอโทษ

          การกล่าวขอโทษ จะเกิดขึ้นเมื่อเราทำให้ใครบาดเจ็บหรือทำข้าวของเสียหาย ไม่ว่าเราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เราก็ควรกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ!

คำที่มักจะใช้ขอโทษ

Sorry

(ซอรี่)

ขอโทษ

Apology

(อะโพลโลไจซ์)

ขอโทษ

 

ใช้ขอโทษเมื่อเราทำผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ/ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

  • I must apologize for…..

        ฉันต้องขอโทษสำหรับ.....​

  • May I apologize for…..

        ฉันขอโทษที่.....นะคะ​

  • I’m really sorry.

        ฉันขอโทษจริงๆ​

  • I’m terribly sorry for…..

        ฉันเสียใจกับ....

 

ใช้ขอโทษเมื่อไม่ได้ยินผู้อื่นพูดและต้องการที่จะฟังอีกครั้ง

  • Pardon me.

        ขอโทษนะคะ อะไรนะคะ

  • I beg your pardon.

       ขอโทษนะคะ คุณพูดว่าอะไรนะคะ

 

การกล่าวตอบรับขอโทษ​

  • I forgive you.

        ฉันให้อภัยคุณ​

  • It doesn’t matter.

        ไม่เป็นไรค่ะ​

  • That’s ok Or I’m ok.

        ไม่เป็นไร หรือ ฉันไม่เป็นไร

เป็นยังไง เจ๋งดีใช่มั้ยล่ะ อย่าลืมกลับไปทบทวนและพยายามใช้ในEveryday นะ!

แหล่งอ้างอิง

Conversationสนทนาภาษาอังกฤษ, นนทบุรี : ธิงค์ บียอนด์ บุ๊คส์, 2558.

bottom of page